วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 6

Blog เป็นคำเรียกสั้นๆ ของคำว่า WeBlog ซึ่งบ้างก็อ่าน We Blog หรือบ้างก็อ่านว่า Web log แม้จะอ่านต่างกันอย่างไร ทั้งสองคำก็บอกถึงสิ่งเดียวกัน คือ Blog (บล็อก) นั่นเอง
ความหมายของคำว่า Blog ก็คือ Website ชนิดหนึ่ง ซึ่งเนื้อหาหรือ Entry จะถูกเขียนตามลำดับเวลา และแสดงผลย้อนกลับตามลำดับวันเดือนปี หมายความว่า เนื้อหาที่เราเขียนล่าสุดจะแสดงเป็นลำดับแรก ...งงมั๊ย? พูดง่ายๆ ก็คือ "เขียนก่อน แสดงสุดท้าย หรือล่างสุด ...เขียนทีหลัง แสดงอยู่ตำแหน่งแรก หรือส่วนบนสุดของหน้าเลย"
เนื้อหาของ Blog จะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง เป็นต้นว่า ความคิดเห็นหรือเรื่องราวส่วนตัว ข่าวหรือบทความเฉพาะด้านต่างๆ เช่น เรื่องเกี่ยวกับอาหาร การเมือง กีฬา บันเทิง สิ่งที่ชอบ ของสะสม หรือข่าวท้องถิ่น การงานบางอย่าง ...มากกว่าจะเป็นไดอารีออนไลน์ส่วนตัวเพียงอย่างเดียว
ใน Blog หนึ่งก็จะประกอบด้วย ข้อความ รูปภาพ และจุดเชื่อมโยง (Link)เพื่อเชื่อมโยงไปยัง Blog อื่น Webpage อื่น และสื่อ(media)ชนิดอื่นที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับเรื่องนั้นๆ ที่ Blog นำเสนออยู่
จุดเด่นของ Blog ส่วนมากก็คือ การแสดงความคิดเห็นของตนเองใส่ลงไปในบทความนั้นๆ และในขณะเดียวกัน ก็เปิดโอกาสให้ผู้อ่านได้แสดงความคิดเห็นกลับ (Comments) ได้ด้วย ...ซึ่งลักษรณะแบบนี้จะมีส่วนคล้ายกับ Webboard แต่ Blog จะแตกต่างจาก Webboard ตรงที่ เราสามารถจัดการหน้าของ Blog ได้เอง เหมือนเราเป็นเจ้าของเว็บไซต์ (ซึ่งก็ใช่จริงๆหละ) ที่จะทำการเปลี่ยนแปลงส่วนไหน เมื่อไรย่อมสามารถทำได้
รูปแบบดั้งเดิมของ Blog ส่วนใหญ่คือ กล่าวเจาะจงในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น เกี่ยวกับภาพถ่าย(Photoblog), ภาพเขียน(Sketchblog), วีดิโอ (vlog), เพลง (MP3 blog), หรือ audio (Podcasting), และเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายโดยกว้างของสื่อสังคม (social media) งง..ครับ?
(อ้างอิงจาก : http://en.wikipedia.org)
ที่นี้หากเราจะเขียน Blog เราก้ต้องขอใช้บริการจากผู้ให้บริการ ที่เรียกว่า Blog Host ซึ่งมีทั้งฟรีและเสียเงิน ..อันนี้แล้วแต่เราจะเลือกครับ โดยเราต้องสมัครเป็นสมาชิกก่อน ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายเจ้า เช่น
ของไทย เช่น
www.storythai.com
www.Bloggang.com
http://blog.sanook.com
www.exteen.com
http://weblog.manager.co.th
ฯลฯ
ของต่างประเทศ เช่น
www.blogger.com
www.typepad.com
http://www.wordpress.org
http://spaces.msn.com
www.myspace.com
ฯลฯ
...เหล่านี้เป็นต้น และเมื่อเราได้ Account หรือพื้นที่สำหรับเขียน Blog มาแล้ว ก็ลงมือเขียนตามรูปแบบของ Blog แต่ละเจ้า ซึ่งจะมีเครื่องมือ (Tool) ในการสร้าง Blog ที่แตกต่างกันออกไป ...อันนี้ต้องศึกษาเป็นรายๆ ไป หรือหากเราเก่ง และเจ๋งพออาจสร้าง Blog Host ขึ้นมาใช้งานเองก็ได้เช่นกัน

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมจาก www.blogger.com : บล็อก คืออะไร

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 5

ฺBlog ในปัจจุบันถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งอาจเป็นเพราะ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย (ส่วนใหญ่) ใช้งานง่าย ...โดยผู้เขียนไม่ต้องมีความรู้เรื่องการเขียนเว็บไซต์ด้วยโปรแกรมภาษา หรือโปรแกรมสำเร็จรูปใดๆ เลยก็ย่อมได้ สามารถปรับแต่ง แก้ไขได้ง่าย บนหน้าจอ ณ เวลานั้นเลย แต่หากจะมีความรู้เรื่องภาษา Html ก็จะยิ่งดีมากๆ เพื่อช่วยในการปรับแต่งในขั้นลึกยิ่งขึ้น...
ประโยชน์ของ Blog นั้นมีมากมาย กว้างขวางยิ่งกว่า ไดอารี่ หรือบันทึกส่วนตัวทั่วๆ ไป

ประโยชน์ของ Blog สามารถแยกเป็นข้อๆ ได้ดังนี้

เป็นสื่อที่ใช้ในการแสดงความคิดเห็น ความรู้สึกของผู้เขียนเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เพื่อเสนอให้ผู้คน สาธารณะได้รับรู้
เป็นเครื่องมือช่วยในด้ารธุรกิจ เช่น การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การเสนอข่าวสารความเคลื่อนไหวขององค์กร การเสนอตัวอย่างสินค้า การขายสินค้า และการทำการตลาดออนไลน์ เป็นต้น
เป็นแหล่งความรู้ใหม่ๆ ที่ถูกต้องและชัดเจน จากผู้มีความรู้เฉพาะด้านๆ นั้น เนื่องจากผู้เขียน Blog มักจะเขียนถึงเรื่องที่ตัวเองถนัด ชอบ และมีความรู้ลึกในเรื่องนั้นๆ การค้นหาข้อมูลเฉพาะด้านใน Blog ต่างๆ จึงทำให้เราค้นพบความรู้ และผู้มีความรู้ความชำนาญในด้านต่าง ๆ ได้รวดเร็วขึ้น
ทำให้ทันต่อเหตุการณ์ในโลกปัจจุบัน เพราะข่าวสารความรู้ มาจากผู้คนมากมาย(ทั่วโลก) และมักจะเปลี่ยนแปลงได้ทันกับเหตุการณ์ปัจจุบันเสมอ
และอื่นๆ อีกมากมาย

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 4

ในเว็บของ G2K นี้มีบริการให้ upload ภาพเพื่อให้ได้ URL ของภาพค่ะ ตามขั้นตอนนี้ค่ะ

คลิกเลือก
1."แผงควบคุม"
2.หัวข้อไฟล์อัลบั้ม คลิกเลือก "นำไฟล์ขึ้น"
3.เลือกไฟล์ที่ต้องการ uplaod โดยการกดป่ม Browser เลือกไฟล์ภาพในเครื่องเรา ใส่รายละเอียดภาพ ใส่คำหลัก กดเพิ่ม เสร็จแล้วกดปุ่ม "นำไฟล์ขึ้น"
4.จะปรากฎหน้าต่างที่เรานำไฟล์ขึ้นเรียบร้อยแล้วค่ะ สามารถ copy URL ของภาพนั้นไปใช้ได้เลยค่ะ
5.เวลาจะใส่ภาพในบันทึกของเราให้เราคลิกตรงรูปต้นไม้สีเขียว ให้เราเอาเมาส์ไปชี้จะปรากฎคำว่า insert/edit image จะปรากฎ dialog ให้เราใส่ url ของภาพที่เรา upload ไว้แล้ว แล้วกดปุ่ม insert ก็จะได้ภาพประกอบการบันทึกของเราแล้วค่ะ

สำหรับวิธีการใส่ them หรือตกแต่งบล็อก เข้าไปอ่านได้ตาม URL ข้างล่างนะคะ http://gotoknow.org/blog/aratus/78342

และถ้าต้องการ them สวยๆ ก็เข้าไป copy ได้ตาม URL ข้างล่างนี้ค่ะ



วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารประะจำสัปดาห์ที่3

7 เทคนิคการสร้างblog

1. ใส่ใจกับรูปแบบดีไซน์ของ blog
ลองสังเกตดูง่าย ๆ ครับ สำหรับบล็อกชั้นนำของโลก ต่างก็ไม่ได้ใช้ template แจกฟรีที่มีกันทั่วไป แต่บล็อกชั้นนำเหล่านี้ ต่างก็ออกแบบดีไซน์ของบล็อกขึ้นมาเองทั้งหมด ทำให้บล็อกนั้นดูมีความแตกต่าง และมีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น

2. ใส่ใจกับเนื้อหาของบล็อก
ก่อนที่คุณจะสร้างบล็อกขึ้นมาซักแห่งหนึ่ง ลองวางแนวทาง ของเนื้อหาในบล็อกดูก่อนครับ ว่าเราต้องการจะนำเสนอบทความรูปแบบไหน เราจะมีวิธีนำเสนอไปในทางใด สิ่งเหล่านี้ จะทำให้คุณไม่หลุดประเด็น จากที่คุณตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกไงครับ เช่น บล็อกของ keng.com ต้องการจะเป็น บล็อกที่นำเสนอข้อมูลด้านการทำบล็อก ดังนั้นผมวางแนวทางไว้ว่า ต้องมีข่าวสารวงการบล็อกทั่วโลก มาให้ผู้อ่านได้อ่านกัน และยังต้องมีเทคนิคการทำบล็อกสำหรับมือใหม่ เช่นบทความเรื่อง “blog คืออะไร?” และมีเทคนิคสำหรับขั้นผู้เชี่ยวชาญ เช่นการใส่ Tag หรือการ Ping ไปยัง blog search engine เป็นต้น ตัวอย่างข้างต้น ดังเช่นตัวอย่างบทความ ที่ผมเขียนขึ้นมาเหล่านี้ เป็นแนวทาง ในการกำหนดทิศทางของบล็อกครับ

3. ใส่ใจผู้อ่าน มากกว่าใส่ใจตัวเอง
เนื้อหาของบล็อกเป็นสิ่งที่ผุ้อ่านใส่ใจใคร่รู้ ไม่ใช่ป้ายโฆษณาที่เราวางระเกะระกะในเว็บไซต์แต่อย่างใด ดังนั้นการจัดรูปแบบโฆษณา ต้องคำนึงถึงจิตใจผู้อ่านด้วยนะครับ ว่าถ้าเป็นเราเอง ไปอ่านบล็อกคนอื่น แล้วมีโฆษณามาเกะกะในตัวบทความ เราชอบหรือไม่ โดยทั่วไปแล้ว ถ้าบทความของเราเขียนได้ดี ผู้อ่านก็จะมาอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก และอาจมีผู้อ่านมากขึ้นทุก ๆ วัน หลังจากนั้นแล้ว รายได้จากค่าโฆษณาจะตามมาเอง โดยที่เราไม่ต้องไปใส่โฆษณา แทรกลงไปในตัวบทความอีกด้วย

4. ใส่ใจ comment ที่มีเข้ามา
บล็อกสามารถใช้ประโยชน์ของการสื่อสาร ได้ด้วยระบบ comment ในตัวเอง ซึ่งโปรแกรมสร้างบล็อก (ฺBlogware) ส่วนใหญ่ มีระบบ comment ติดมาให้ด้วยอยู่แล้ว ลองใช้ระบบนี้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการอ่าน comment การตอบ comment ต่าง ๆ บางครั้งเราอาจได้ประโยชน์ จากการดึงประเด็นเด็ด ๆ จาก comment มาใช้เขียนบทความก็เป็นได้ ดังนั้น ทุก ๆ วันคุณควรที่จะตรวจสอบว่ามี comment ใดเข้ามาบ้าง เพื่อที่จะได้ตอบได้ทันท่วงที เมื่อเราตอบได้เร็ว ผู้อ่านมีอารมณ์ร่วมในการสื่อสาร ทั้งสองฝ่ายก็แฮปปี้ครับ และจุดสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ถ้าเราตรวจสอบ comment ทุกวัน เราสามารถลบพวก spam comment ออกได้อย่างทันควันไงครับ

5. ใส่ใจในมาตรฐานของเว็บไซต์
ไม่มีใครรู้ว่าบล็อกของเราจะมีคนเข้ามาอ่านมากแค่ไหน บางครั้งเราอาจต้องมีการปรับปรุงเว็บไซต์ หรือบางครั้งเราอาจต้องมีการปรับแต่งดีไซน์ เพื่อรองรับการขยายตัวอย่างที่เราไม่คาดฝัน ลองมองไปถึงการดีไซน์บล็อกด้วย มาตรฐานของเว็บไซต์ (Web Standard) ซึ่งจะสามารถทำให้บล็อกของคุณ แสดงผลได้ดีในทุก ๆ browser และลองพยายามใช้ css ในทุก ๆ ส่วนที่คุณทำได้ เพราะตัว css นี้มีความยืดหยุ่นสูง ถ้าเราต้องมีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ต่าง ๆ เราจะได้ปรับเฉพาะแค่ไฟล์ css แทนที่จะไปแก้ html ในแต่ละหน้า ลองนึกดูครับว่า ถ้าวันใดที่คุณมีบทความประมาณ 1,000 บทความ แต่คุณต้องมานั่งแก้สีของกรอบรูป�� าพ ที่คุณเคยเขียนโค๊ดใส่ border เข้าไปที่โค๊ดของรูป�� าพโดยตรง แทนที่จะแก้ไขที่ไฟล์ css แค่บรรทัดเดียว

6. จัดตารางเวลาในการเขียนให้เหมาะสม
เมื่อตอนเริ่มเขียนบล็อก คุณอาจใช้เวลาไม่มากนักในการเขียนบทความ แต่เมื่อคุณเขียนมากขึ้นเรื่อย ๆ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี แน่นอนว่าคงต้องมีการกระทบกับเวลาการทำงานอื่น ๆ ของคุณเช่นกัน ดังนั้นลองจัดสรรเวลาสำหรับเขียนบล็อก อาจจะตื่นเช้าสักหน่อย ใช้เวลาในช่วงเช้าก่อนไปทำงาน เขียนบทความสักหนึ่งตอน หรือจะเขียนบทความในช่วงดึก ๆ ก่อนนอนก็ได้ ตรงนี้แล้วแต่คนนะครับ ว่าคุณสะดวกแบบไหน หรือมีเวลาว่างในตอนอื่น ๆ ลองปรับให้เหมาะสมกับตัวเองดูีครับ

7. ใส่ใจเรื่องขนาดของ�� าพประกอบบทความ
ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่งฉันท์ใด บล็อกย่อมงามเพราะดีไซน์และ�� าพประกอบ (มั่วจริง ๆ เลยผม) ลองทำความรู้จักกับรูปแบบของไฟล์�� าพชนิดต่าง ๆ ดูนะครับ เช่นไฟล์ที่มีนามสกุลเป็น .gif นั้น สามารถแสดงผลได้สูงสุด 256 สี แต่ไฟล์�� าพที่เป็นนามสกุล .jpg นั้นสามารถแสดงผลได้สูงสุด 16 ล้านสี ดังนั้นการเลือกที่จะเซฟ�� าพเป็นไฟล์นามสกุลอะไรนั้น เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เพราะหากเลือกชนิดไฟล์ผิด �� าพที่ออกมาจะไม่สวย และไฟล์อาจมีขนาดใหญ่ผิดปกติ นั่นจะเป็นสิ่งทกินทรัพยากรของระบบ และบล็อกของคุณมากขึ้นไปอีก เพราะถ้ามีผู้อ่านเยอะ แต่ต้องรอโหลด�� าพที่ใหญ่ผิดปกติ ผู้อ่านบางท่านอาจจะเลิกรอเลยครับ ผมขอแนะนำวิธีง่าย ๆ ในการเซฟ�� าพดังนี้ครับ หากเป็น�� าพถ่าย แนะนำให้ใช้เป็น jpg ส่วนถ้าเป็นไฟล์โลโก้ หรือ�� าพที่มีจำนวนสีน้อย ๆ ลองดูเป็น gif